ตั้งผู้จัดการมรดกชาวต่างชาติ
คดียื่นคำร้องขอศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของชาวต่างชาติ
ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของชาวต่างชาติในเมืองไทยที่ต้องจัดการแบ่งปันให้แก่ทายาท เช่น คอนโดฯ กองทุน เงินฝากธนาคาร หุ้น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เป็นต้น
เขตอำนาจศาล ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 4 จัตวา
1. ต้องยื่นต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย
ซึ่งในทางปฏิบัติ ภูมิลำเนาถือตามทะเบียนบ้าน โดยชาวต่างชาติ ให้ถือตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านเล่มเหลือง บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือมรณบัตร หรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
2. แต่หากชาวต่างชาติไม่มีภูมิลำเนาในไทย ตาม ข้อ 1. ต้องไปยื่นต่อศาลที่ทรัพย์มรดกตั้งอยู่ เช่น ตามที่ตั้งคอนโดมิเนียม โดยให้อ้างอิงตามหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด และมักจะปรากฎอยู่ในมรณบัตร ที่ออกโดยสำนักงานทะเบียนของไทย ได้เช่นเดียวกัน
กรณีบัญชีเงินฝากธนาคาร - ใช้ที่ตั้งของธนาคารสาขาที่เปิดบัญชีไว้
โดยเรื่องเขตอำนาจศาลนี้ ต้องบรรยายในคำร้องว่า ผู้ตายเจ้ามรดกเป็นชาวต่างชาติ ได้พักอาศัยอันถือเป็นภูมิลำเนา และมีทรัพย์มรดก ตั้งอยู่แขวง… เขต… กรุงเทพ ฯ ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของศาลนี้ ด้วย
เอกสารตัวจริงประกอบการยื่นคำร้อง
1. พินัยกรรม (ถ้ามี)
2. หนังสือเดินทาง
3. ทะเบียนบ้านเล่มเหลือง บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย หรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์
4. มรณบัตร
5. บัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้ร้อง (ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม)
6. ทะเบียนสมรส หรือทะเบียนหย่า ของผู้ตาย
7. หนังสือเดินทาง ของทายาท รับรองสำเนาถูกต้อง
8. หนังสือรับรองการเกิด ของลูก
9. บัญชีเครือญาติ
10. หนังสือกรรมสิทธิห้องชุด
11. รายงานทรัพย์มรดก เช่น บัญชีเงินฝากธนาคาร ใบรับรองกองทุน หุ้น รถยนต์ เป็นต้น
12. หนังสือยินยอมจากทายาท
เอกสารภาษาต่างประเทศต้องแปลภาษาไทย
หากทายาทอยู่ในต่างประเทศให้ลงนามและรับรองความถูกต้องของเอกสารผ่านNotary Public หรือเจ้าหน้าที่กงสุล
ค่าขึ้นศาล : 200 บาทเช่นเดียวกันคนไทย
ระยะเวลาดำเนินคดี
เมื่อยื่นคำร้องต่อศาลแล้วจะนัดไต่สวนคำร้องประมาณ 2-3 เดือน และหลังจากไต่สวนแล้ว ต้องรอคดีถึงที่สุดอีก 1 เดือน เพื่อคัดถ่ายสำเนาคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกไปดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป
ลำดับคำถาม ในการไต่สวนคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
1. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องกับผู้ตาย
2. วันที่ผู้ตายเสียชีวิต สาเหตุการตาย และภูมิลำเนาของผู้ตาย
3. บัญชีทายาท
4. รายการทรัพย์มรดก
5. เหตุขัดข้องในการจัดการมรดก
6. ความยินยอมของทายาท
7. คุณสมบัติของผู้จัดการมรดก
ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกา ที่น่าสนใจ
ประเด็น : พินัยกรรมของชาวต่างชาติที่ระบุให้ตั้งใครเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม บุคคลดังกล่าวแม้จะไม่ใช่ทายาทโดยธรรมของชาวต่างชาติก็มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลขอตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกเองได้เลยในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6301/2556
แม้ผู้ร้องจะมิได้เป็นทายาทของผู้ตาย แต่การที่ผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกย่อมทำให้ผู้ร้องมีหน้าที่ที่จะต้องทำการอันจำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรม และเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปหรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดก และอาจต้องรับผิดต่อทายาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1719 และ 1720 จึงถือว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิร้องขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1713
** รวมคำถาม - ตอบ คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกชาวต่างชาติ By Thanu Law
คำถาม : ชาวต่างชาติ เป็นผู้จัดการมรดกได้ไหม ?
ตอบ - ทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามเอาไว้ บุคคลที่กฎหมายห้ามไม่ให้เป็นผู้จัดการมรดก เป็นตามไป
ป.พ.พ. มาตรา 1718 บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้
(1) ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(2) บุคคลวิกลจริต หรือ บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
(3) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย
อ้างอิง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2541
แม้ผู้ร้องจะเป็นบุคคลต่างด้าว แต่ผู้ร้องก็ไม่เป็นบุคคลต้องห้าม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ที่จะจัดการมรดกของผู้ตาย การเป็นบุคคลต่างด้าวหาเป็นอุปสรรคในการจัดการมรดกของผู้ตายแต่อย่างใดไม่ เมื่อผู้ร้องเป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จึงมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกับผู้คัดค้านซึ่งเป็นบุตรของผู้ตายได้
Note : ชาวต่างชาติสามารถยื่นคำร้องขอตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกได้ แต่ในทางปฏิบัติอาจเกิดข้อยุ่งยากในการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดิน
วิเคราะห์ประเด็นสำคัญ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2568
ข้อเท็จจริง
1. ผู้ตายอาศัยในประเทศไทยโดยใช้วีซ่าเกษียณอายุ
2. ตายในประเทศไทย
3. ไม่มีทรัพย์มรดกในประเทศไทย
4. ไม่สามารถตั้งผู้จัดการมรดกในฝรั่งเศสได้ เพราะไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจศาล
5. ต้องการนำคำสั่งศาลไทย ไปใช้ที่ฝรั่งเศส
วิเคราะห์
1. ควรให้ทายาทในต่างประเทศทุกคน เซ็นให้ความยินยอม
2. การตรวจสอบที่อยู่ในประเทศไทย อ้างอิงจากสำเนาวีซ่า เอกสารเงินบำนาญซึ่งผู้ตายได้เคยแจ้งที่อยู่ในประเทศไทยเพื่อให้หน่วยงานจัดส่งเอกสาร ถือว่าเป็นถิ่นที่อยู่และเป็นภูมิลำเนาของผู้ตาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 37
พ.ร.บ.ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมายพุทธศักราช 2481
ภาค 6 มรดก
มาตรา 37 มรดกเท่าที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งถิ่นที่ทรัพย์สินนั้นตั้งอยู่
มาตรา 38 ในส่วนที่เกี่ยวกับสังหาริมทรัพย์ มรดกโดยสิทธิโดยธรรม หรือโดยพินัยกรรม ให้เป็นไปตามกฎหมายภูมิลำเนาของเจ้ามรดกในขณะที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 37 ภูมิลำเนาของบุคคลธรรมดา ได้แก่ถิ่นอันบุคคลนั้นมีสถานที่อยู่เป็นแหล่งสำคัญ
ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทนายความ
สะกดชื่อผู้ตายเจ้ามรดกให้ถูกต้อง หากไม่ชัวร์ สามารถใช้ "หรือ" ก็ได้ เพราะระบบทะเบียนข้อมูลชาวต่างชาติในไทย บางหน่วยงานใช้ชื่อสกุล ขึ้นก่อน บางหน่วยงาน ใช้ชื่อตัว ขึ้นก่อน
|
คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกชาวต่างชาติ |
|
|
รูปแบบคดี |
ราคา(เริ่มต้น) |
|
♦ ขอตั้งผู้จัดการมรดก ชาวต่างชาติ |
-X- |
รับว่าความทั่วประเทศ คดีขอตั้งผู้จัดการมรดกชาวต่างชาติ
ยินดีให้คำปรึกษากฎหมาย
ติดต่อสอบถาม
ทนายธนู โทร 083 4248098
LINE ID : @tn13
เปิดบริการทุกวัน เวลา 7.00 - 20.00 น.
ช่องทางการติดต่อ กดที่ไอคอน
----------ENGLISH VERSION----------
Applying for a court to appoint as the trustee of a foreigner according to the Last Will and Testament
Most of the assets of foreigners in Thailand That has to be shared with the heirs such as condominiums, funds, bank accounts, stocks, cars, etc.
Original document For submitting a request
1. the last will and testament
2. passports
3. house registration yellow book Identification card for people without Thai nationality
4. death certificates
5. Applicant's ID card and house registration (Trustee by will)
6. marriage or divorce registration of the deceased
7. the passport of the heir, certified true copy
8. Certificate of birth of the heir
9. family tree chart
10. condominium units
11. Report of inheritance such as bank account Stock fund certificates car, etc.
12. Letter of consent from the heir
All the documents said With Thai translation
If the heir is in a foreign country Must be signed and authenticated through a Notary Public or a Consular Officer.
Litigation period
When the petition is filed with the court, the hearing will be scheduled for 2-3 months and after the hearing. Have to wait for the final case for another month to request a copy of the order appointing the trustee to carry out their duties
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments
