หมายเรียกตำรวจ
กรณี บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ไม่ได้จัดทำและยื่นงบการเงิน ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้กล่าวหา จะไปร้องทุกข์ต่อตำรวจ ณ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ECD เพื่อส่งหมายเรียกตำรวจไปให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนต่อไป ในฐานความไม่ยื่นงบการเงิน หรือส่งงบการเงินล่าช้า
ประเด็นที่น่าสนใจ
1. เป็นข้อหาความผิดตาม พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 มาตรา 11 วรรคหนึ่ง
2. บุคคลที่ต้องรับโทษ ประกอบด้วย
2.1. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน ในฐานะผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 50,000 บาท ตามมาตรา 30 (ไม่มีโทษจำคุก)
2.1. กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการผู้รับผิดชอบในการดำเนินการของนิติบุคคค ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 50,000 บาท ตามมาตรา 40 (ไม่มีโทษจำคุก)
3. คดีมีอายุความ 1 ปี นับแต่วันกระทำความผิด ตาม ป.อาญา มาตรา 95(5) กล่าวคือ นับแต่เมื่อพ้นกำหนด 5 เดือนนับแต่วันปิดบัญชี
ข้อแนะนำ
1. บริษัทในฐานะผู้ต้องหา ต้องทำเรื่องส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อมชำระค่าปรับ ตามตารางอัตราค่าปรับ กรณียื่นงบการเงินเกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543
2. เมื่อได้ชำระแล้ว ก็สามารถนำใบเสร็จพร้อมหลักฐาน ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการปิดคดี โดยสามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปแทน
3. ค่าปรับในชั้นตำรวจ ประมาณ 12,000 บาท
หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543
มาตรา 11 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศและกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร ต้องจัดทำงบการเงินและยื่นงบการเงินดังกล่าวต่อสำนักงานกลางบัญชีหรือสำนักงานบัญชีประจำท้องที่ภายใน 5 เดือนนับแต่วันปิดบัญชีตามมาตรา 10 สำหรับกรณีของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยให้ยื่นภายใน 1เดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติในที่ประชุมใหญ่ ทั้งนี้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นทำให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีไม่สามารถจะปฏิบัติตามกำหนดเวลาดังกล่าวได้ อธิบดีอาจพิจารณาสั่งให้ขยายหรือเลื่อนกำหนดเวลาออกไปอีกตามความจำเป็นแก่กรณีได้
การยื่นงบการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นงบการเงิน พ.ศ. 2555]
งบการเงินต้องมีรายการย่อตามที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี เว้นแต่กรณีที่ได้มีกฎหมายเฉพาะกำหนดเพิ่มเติมจากรายการย่อของงบการเงินที่อธิบดีกำหนดไว้แล้วให้ใช้รายการย่อตามที่กำหนดในกฎหมายเฉพาะนั้น
[ดูประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ. 2554]
งบการเงินต้องได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เว้นแต่งบการเงินของผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่มีทุน สินทรัพย์ หรือรายได้ รายการใดรายการหนึ่งหรือทุกรายการ ไม่เกินที่กำหนดโดยกฎกระทรวง
[ดูกฎกระทรวง ว่าด้วยการยกเว้นไม่ต้องจัดให้งบการเงินได้รับการตรวจสอบและแสดงความเห็นโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต พ.ศ. 2544]
มาตรา 10 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีต้องปิดบัญชีครั้งแรกภายใน 12 เดือนนับแต่วันเริ่มทำบัญชีที่กำหนดตามมาตรา 8 วรรคหก หรือวันเริ่มทำบัญชี
ตามมาตรา 9 แล้วแต่กรณี และปิดบัญชีทุกรอบ 12 เดือนนับแต่วันปิดบัญชีครั้งก่อน เว้นแต่
(1) เมื่อได้รับอนุญาตจากสารวัตรใหญ่บัญชีหรือสารวัตรบัญชีให้เปลี่ยนรอบปีบัญชีแล้วอาจปิดบัญชีก่อนครบรอบสิบสองเดือนได้
(2) ในกรณีมีหน้าที่จัดทำบัญชีตามมาตรา 8 วรรคสอง ให้ปิดบัญชีพร้อมกับสำนักงานใหญ่
มาตรา 30 ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000บาท
มาตรา 40 ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดซึ่งต้องรับโทษตามพระราชบัญญัตินี้เป็นนิติบุคคล ให้กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้แทนนิติบุคคล หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินการของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นๆ ด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนรู้เห็นหรือยินยอมในการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 95 ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ
(5) 1 ปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 เดือนลงมา หรือต้องระวางโทษอย่างอื่น
ทำสัญญาเช่าอายุ 3 ปี เริ่มสัญญาวันที่ 19 มค. ให้คำมั่นสัญญาในข้อตกลงแนบท้ายสัญญาว่าจะให้ต่ออายุทุกๆ 3 ปี
อยากทราบว่าค่าเช่าที่ปี 4 ที่ให้เช่าต่อจากสัญญา 3 ปีแรก ทางผู้เช่าต้องชำระค่าเช่าของเดือน มค.ของปีที่ 4 เต็มเดือน หรือชำระตั้งแต่วันที่ 19 -31 ม.ค. ค่ะ และถ้าหากต้องได้รับเต็มเดือน ถ้าทางผู้เช่าชำระแค่เศษของเดือนจะเรียกร้องทางกฎหมายได้ไหมค่ะ