คำแถลง ขอวางเงินต่อศาล

คำแถลง ขอวางเงินต่อศาล ตาม ป.วิ.แพ่ง 135

   ข้อ 1. คดีนี้ ศาลได้นัดสืบพยานโจทก์และจำเลย ในวันที่ 10 ธันวาคม 2563

   โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยจำนวน 400,000 บาท จำเลยได้ต่อสู้ว่าจำเลยมีความรับผิดต่อโจทก์เพียง 50,000 บาท

   ด้วยเหตุดังกล่าว จำเลยจึงขอวางเงินจำนวน 50,000 บาท ไว้ต่อศาล โดยจำเลยยอมรับผิดต่อโจทก์ในจำนวน 50,000 ตามที่ขอวางศาล

   เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งรับไว้ ขอศาลได้โปรดอนุญาต

          ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

   ลงชื่อ                          จำเลย

คำแถลงฉบับนี้ ข้าพเจ้านายธนู กุลอ่อน ทนายจำเลย เป็นผู้เรียงและพิมพ์

   ลงชื่อ                          ผู้เรียงและพิมพ์

 

คำแถลง ขอวางเงินตามคำฟ้องโจทก์โดยยอมรับผิด (ก่อนศาลพิพากษา)

   ข้อ 1. คดีนี้ศาลได้โปรดนัดไกล่เกลี่ย ให้การ หรือสืบพยานโจทก์ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2563

   โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดสัญญาเช่าโกดังเก็บสินค้า และขอให้บังคับชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจนถึงวันฟ้องเป็นเงินจำนวน 400,000 บาท และเรียกให้ชำระดอกเบี้ยนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปอีก

   จำเลยรับว่าได้เช่าโกดังเก็บสินค้าของโจทก์จริง แต่คงค้างค่าเช่าเพียง 320,000 บาท จึงขอวางเงินต่อศาลบางส่วนเป็นเงินจำนวน 320,000 บาทโดยยอมรับผิด หากโจทก์พอใจยอมรับเงินที่จำเลยวางโดยไม่ติดใจเรียกร้องมากกว่านั้น ก็ขอศาลได้โปรดมีคำพิพากษาไปตามนั้น แต่หากโจทก์ไม่พอใจในจำนวนเงินที่จำเลยวางและยังติดใจดำเนินคดีเพื่อให้จำเลยต้องรับผิดในจำนวนเงินตามที่เรียกร้องต่อไปอีก จำเลยก็ไม่ขอถอนเงินที่วางนั้นและยังคงยินยอมให้โจทก์รับเงินนั้นไปได้ ขอศาลได้โปรดอนุญาต

          ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

   ลงชื่อ                          จำเลย

คำแถลงฉบับนี้ ข้าพเจ้านายธนู กุลอ่อน ทนายจำเลย เป็นผู้เรียงและพิมพ์

   ลงชื่อ                          ผู้เรียงและพิมพ์

 

หมายเหตุ : ต้องเป็นการวางโดยยอมรับผิด ไม่ใช่เพียงวางไว้เพื่อระงับการเสียดอกเบี้ย หรืองดการบังคับคดีไว้ในระหว่างอุทธรณ์ฏีกา

 

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

มาตรา 135 ในคดีที่เรียกร้องให้ชำระหนี้เป็นเงิน หรือมีการเรียกร้องให้ชำระหนี้เป็นเงินรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนมีคำพิพากษา จำเลยจะนำเงินมาวางศาลเต็มจำนวนที่เรียกร้อง หรือแต่บางส่วน หรือตามจำนวนเท่าที่ตนคิดว่าพอแก่จำนวนที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องก็ได้  ทั้งนี้ โดยยอมรับผิดหรือไม่ยอมรับผิดก็ได้

 

คำพิพากษาศาลฎีกา ที่เกี่ยวข้อง

ประเด็น : โจทก์มีสิทธิรับเงินไปจากศาลภายใน 5 ปี มิฉะนั้นจะตกเป็นเงินของแผ่นดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4497/2531

   เงินค้างจ่ายในศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 323 หมายถึงเงินทั้งหมดที่มีผู้นำมาวางไว้ในคดีและค้างจ่ายอยู่ในศาล มิได้จำกัดเฉพาะแต่เงินที่จำเลยนำมาวางศาลก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 135 เท่านั้น การที่จำเลยนำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำบังคับศาลชั้นต้นที่ออกคำบังคับนั้นมีอำนาจที่จะรับเงินไว้ได้เพราะเป็นศาลที่มีอำนาจออกหมายบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 302 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิมิได้เรียกเอาภายใน 5 ปีนับแต่วันที่จำเลยนำเงินมาวางต่อศาล เงินดังกล่าวย่อมตกเป็นของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 323


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 194,649