ตัวอย่าง คำสั่งศาล รับรองบุตร บิดามารดาชาวต่างชาติ
เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอรับรองบุตร กรณีชาวต่างชาติ
1. หนังสือเดินทาง PASSPORT พร้อมแปลภาษาไทย
2. บัตรประจำตัวประชาชน มารดา
3. ทะเบียนบ้าน มารดา และบุตร
4. สูติบัตรของบุตร
5. คำร้องขอจดทะเบียนและบันทึกทะเบียนครอบครัว คร.1 จากสำนักงานทะเบียน
6. หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล มารดา และบุตร (ถ้ามี)
7. หนังสือให้ความยินยอมของมารดา (ถ้ามี)
8. ใบสำคัญการหย่าของมารดา (ถ้ามี)
9. ภาพถ่ายแสดงความสัมพันธ์ของบิดา มารดา และบุตร (ในรูปภาพควรมีญาติอยู่ด้วย)
10. ผลตรวจสารพันธุกรรมหรือ DNA ของโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น (ถ้ามี)
12. VISA แสดงการเข้า-ออกราชอาณาจักรไทย
12. กฎหมายเกี่ยวกับรับรองบุตรของประเทศของบิดาหรือมารดาต่างชาติ กรณีโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องการขัดกันของกฎหมาย ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการขัดกันแห่งกฎหมาย พ.ศ. 2481
ขั้นตอนและระยะเวลา
1. เมื่อยื่นคำร้องต่อศาลแล้ว ศาลจะกำหนดวันนัดไต่สวนคำร้อง ประมาณ 1 เดือนครึ่ง - 2 เดือน โดยในระหว่างนี้ ภายในเวลา 15 วันนับตั้งแต่วันยื่นคำร้อง บิดาต้องนำมารดาและบุตรไปให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ฯ เพื่อทำรายงานข้อเท็จจริงเสนอความเห็นต่อศาล ประกอบในการพิจารณา ตาม พ.ร.บ. ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 167
2. ในวันนัดไต่สวน บิดา มารดา และบุตร ต้องมาศาลพร้อมกัน โดยนำเอกสารตัวจริงแสดงต่อศาล เพื่อใช้ประกอบการเบิกความ
3. เมื่อพ้น 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งอนุญาต บิดาต้องขอคัดถ่ายคำสั่งศาล และหนังสือรับรองคดีถึงที่สุด เพื่อนำเอกสารไปยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรับรองบุตร (คร.1) ต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ ใดก็ได้ โดยจะต้องมีพยาน 2 คน ตามขั้นตอนทางทะเบียน จึงที่ถือว่าสมบูรณ์
แต่หากยังไม่ได้ไปจดทะเบียน จนกระทั่งบิดาถึงแก่ความตาย ถือไม่ได้ว่าเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1548
4. รวมระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 3 - 4 เดือน
ค่าธรรมเนียมศาล
1. ค่าขึ้นศาล 200 บาท
2. ค่าประกาศผ่านสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ E-Notice ฟรี
3. ค่าปิดประกาศคำร้อง ณ ภูมิลำเนาผู้ร้อง อัตราตามระเบียบศาล
4. ค่าส่งสำเนาคำร้องให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย อัตราตามระเบียบศาล
เขตอำนาจศาล : ภูมิลำเนาผู้ร้อง หรือสถานที่บิดามารดาได้อยู่กินกัน
ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากทนายความ
1. กรณีมารดาเด็กและเด็ก ไม่ให้ความยินยอม บิดาต้องขอศาลให้ส่งหมายนัดไต่สวนและสำเนาคำร้องให้มารดาเด็กทราบ เพื่อใช้สิทธิคัดค้านตามกฎหมาย
2. กรณีมารดาเสียชีวิตแล้ว ส่วนใหญ่ศาลมักจะมีคำสั่งให้บิดากับบุตรไปตรวจ DNA แล้วนำผลมาแสดงต่อศาลก่อนวันนัดไต่สวน
3. การให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ บิดามารดาต้องแสดงหลักฐานตัวจริงต่าง ๆ เช่นเดียวกับที่ต้องใช้ในชั้นศาล
4. กรณีพ่อหรือแม่เป็นชาวต่างชาติ ไม่สามารถพูดและอ่านภาษาไทยได้ ต้องใช้ล่ามช่วยแปลภาษา สำหรับในการให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่สถานพินิจ ฯ และในชั้นศาล
5. หากต้องการให้คำพิพากษามีผลบังคับใช้ในประเทศของบิดาต่างชาติ ต้องแสดงข้อกฎหมายของประเทศนั้นๆต่อศาล
6. คดีฟ้องรับรองบุตร ตาม พ.ร.บ. จดทะเบียนครอบครัว พ.ศ.2478 มาตรา 20 ให้โจทก์ยื่นสำเนาคำพิพากษาพร้อมรับรอง ต่อนายทะเบียนเพื่อดำเนินการบันทึกในทะเบียนได้เลย
7. การจดทะเบียนรับรองบุตร เป็นการต้องทำเองเฉพาะตัว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 23 บิดาหรือมารดาซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่(อายุไม่ถึง 20 ปี) จึงไม่จำต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ก่อนยื่นคำร้องต่อศาล
8. ก่อนยื่นคำร้องรับรองบุตรต่อศาล ต้องดำเนินการยื่นคำร้องขอจดทะเบียน คร.1 ต่อนายทะเบียน ก่อนเสมอ
|
ค่าบริการว่าความ คดีรับรองบุตรชาวต่างชาติ |
|
|
รูปแบบคดี |
ราคา(เริ่มต้น) |
|
♦ บิดา/มารดา ชาวต่างชาติ ยื่นคำร้องต่อศาล |
-X- |
|
♦ บริการล่าม |
4,000 |
ตัวอย่าง คำสั่งศาล คดีรับรองบุตร บิดามารดาชาวต่างชาติ
รับว่าความทั่วประเทศ คดีรับรองบุตรชาวต่างชาติ
ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อสอบถาม
ทนายธนู โทร 083 4248098
LINE ID : @tn13
เปิดบริการทุกวัน เวลา 7.00 - 20.00 น.
ช่องทางการติดต่อ กดที่ไอคอน
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments
