ข้อควรปฏิบัติเมื่อถูกฟ้องคดีแพ่ง
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อถูกฟ้องคดีแพ่ง
เมื่อได้รับหมายเรียก ในฐานะจำเลย ควรปรึกษาทนายความ เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินคดี หาทางแก้ไข ทั้งต่อสู้คดีหรือเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของตัวจำเลย
หากพึงพอใจในวิธีการ สามารถแต่งตั้งเพื่อว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาแทน โดยมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
1 ยื่นคำให้การ ภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล ตามประเภทของคดี
1.1 คดีแพ่งสามัญ จำเลยต้องยื่นคำให้การ
- ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหมายด้วยตนเอง มีผู้รับแทน(บุคคลอื่นที่อายุเกิน 20 ปี) หรือทางไปรษณีย์
- ภายใน 30 วันนับแต่วันที่เจ้าหน้าที่ศาลมาปิดหมายไว้หน้าบ้าน ที่ทำงาน หรือประกาศหนังสือพิมพ์
1.2 คดีมโนสาเร่ หรือคดีไม่มีข้อยุ่งยาก คดีผู้บริโภค จำเลยสามารถให้การด้วยวาจา หรือหนังสือ ในวันนัดไกล่เกลี่ย ให้การ หรือสืบพยานได้
ผลเสียการไม่ยื่นคำให้การ : ไม่มีสิทธินำพยานมาสืบหักล้างกับคำฟ้องโจทก์ มีสิทธิเพียงถามค้าน ซึ่งมีผลต่อการยื่นอุทธณณ์ฏีกาในอนาคต
ทางแก้ หากยื่นคำให้การไม่ทัน : เช่น มีเอกสารหลักฐานในการต่อสู้คดีจำนวนมาก หรือเพิ่งจัดหาทนายความได้ เป็นต้น ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การได้ ก่อนสิ้นกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การ โดยต้องระบุเหตุสุดวิสัย ที่ไม่สามารถยื่นคำให้การได้ การอนุญาตเป็นดุลพินิจของศาล
ทางแก้ หากขาดนัดยื่นคำให้การ
- กรณี จำเลยมาศาลก่อนศาลวินิจฉัยชี้ขาดคดี
ให้แจ้งต่อศาลว่าตนประสงค์จะต่อสู้คดี และขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตยื่นคำให้การ หากศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือมีเหตุอันควร ศาลจะมีคำสั่งอนุญาต โดยสามารถแจ้งด้วยวาจา เป็นหนังสือ หรือมอบอำนาจก็ได้
- กรณี จำเลยมาศาลภายหลังจากศาลตัดสินคดีแล้ว
จำเลยมีสิทธิขอพิจารณาคดีใหม่ ภายในกำหนดเวลา ดังนี้
1 กรณีปกติ ให้ยื่นคำขอต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับส่งคำบังคับตามคำพิพากษา
2 กรณีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ให้ยื่นคำขอต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่พฤติการณ์สิ้นสุดลง
3 อย่างไรก็ตาม ห้ามยื่นคำขอต่อศาลเมื่อพ้นกำหนด 6 เดือน นับแต่วันที่ยึดทรัพย์ หรือได้มีการบังคับตามคำพิพากษา หรือคำสั่งโดยวิธีอื่น แม้พฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ยังไม่สิ้นสุดลง
การบังคับคดี
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตาม จะถูกยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ ถูกจับ หรือจำขัง แล้วแต่กรณี
โจทก์มีสิทธิขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีภายใน 10 ปีนับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง
- ความคิดเห็น
- Facebook Comments