คำร้อง ขอออกหมายเรียกจำเลยมาสอบถาม เพื่อตักเตือน

คำร้อง ขอออกหมายเรียกจำเลยมาสอบถาม เพื่อตักเตือน

   ข้อ 1. คดีนี้ ศาลได้โปรดมีคำพิพากษาตามยอมแล้ว เมื่อวันที่ 10 เมษายน2560

   ข้อ 2. ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อ 3. จำเลยยินยอมจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรแก่โจทก์ ดังนี้

   3.1 เดือนมิถุนายน 2560 ถึงเดือนตุลาคม 2560 เดือนละ 5,000 บาท รายละเอียดปรากฏตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ฉบับลงวันที่ 10 เมษายน 2560 ในสำนวนคดีของศาลแล้ว

   ข้อ 3. นับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ เป็นต้นมา จำเลยไม่เคยชำระเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ให้แก่โจทก์เลย แม้โจทก์จะได้แจ้งด้วยวาจาแล้วหลายครั้ง ว่าบุตรมีค่าใช้จ่ายมากมายเพียงใด จำเลยก็ละเลย ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด

   ต่อมาโจทก์จึงได้มอบหมายให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวไปยังจำเลย รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือบอกกล่าว เอกสารแนบท้ายคำร้องฉบับนี้

   แต่ปรากฏว่าจำเลยเพิกเฉย ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ตกลงกันไว้ ถือว่าจำเลยผิดนัดผิดสัญญา จงใจฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล

   ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น โจทก์ไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะบังคับให้จำเลยได้ ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งเรียกตัวจำเลยมาสอบถาม เพื่อตักเตือน หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือนของศาล ขอศาลได้โปรดออกหมายจับและสั่งให้กักขังจำเลย ต่อไป จนกว่าจำเลย จะชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูแก่โจทก์ รวมเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท โดยโจทก์ยินยอมเสียค่าธรรมเนียมตามระเบียบศาลทุกประการ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอศาลได้โปรดอนุญาต

         ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

   ลงชื่อ                         โจทก์

คำร้องฉบับนี้ ข้าพเจ้านายธนู กุลอ่อน ทนายโจทก์ เป็นผู้เรียงและพิมพ์

   ลงชื่อ                         ผู้เรียงและพิมพ์

 

พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553

มาตรา 162 ในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพ ถ้าศาลเห็นสมควรจะสั่งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษานำเงินมาวางศาลตามเงื่อนไขหรือระยะเวลาที่ศาลกำหนด ในกรณีลูกหนี้ตามคำพิพากษามีรายได้ประจำ ศาลอาจสั่งให้อายัดเงินเท่าจำนวนที่จะชำระเป็นค่าอุปการะเลี้ยงดู หรือค่าเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน แล้วให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินดังกล่าวนำเงินมาวางศาลแทนลูกหนี้ตามคำพิพากษา 

   เมื่อความปรากฏต่อศาลเองหรือผู้มีสิทธิได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพ ร้องต่อศาลว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลเรียกตัวมาสอบถาม หากปรากฏเป็นความจริงให้ศาลว่ากล่าวตักเตือนให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล

   ในกรณีลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำตักเตือนของศาลตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ศาลมีอำนาจออกหมายจับและสั่งให้กักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้จนกว่าลูกหนี้จะนำเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพมาชำระหรือวางศาล แต่ห้ามมิให้กักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษาแต่ละครั้งเกินกว่า 15 วันนับแต่วันจับหรือกักขัง แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะได้รับการปล่อยชั่วคราว


ชื่อผู้ตอบ:

Visitors: 194,267