ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ ซื้อบ้าน
โดย:
ทีมงานทนายThanulegal
[IP: 58.8.159.xxx]
เมื่อ: 2017-10-29 09:17:38
ทำสัญญาจะซื้อจะขายกับทางโครงการหมู่บ้านจัดสรรไว้
มีการชำระเงินจอง มัดจำ และผ่อนดาวน์ ไปจำนวนหนึ่ง
ต่อไปขอสินเชื่อธนาคารไม่ผ่าน จะสามารถเรียกร้องเงินที่จ่ายไปคืนมาได้ไหม?
มีการชำระเงินจอง มัดจำ และผ่อนดาวน์ ไปจำนวนหนึ่ง
ต่อไปขอสินเชื่อธนาคารไม่ผ่าน จะสามารถเรียกร้องเงินที่จ่ายไปคืนมาได้ไหม?
ฉะนั้นในส่วนเงินจอง เงินมัดจำ ผู้ขายสามารถริบไว้ได้
แต่เงินผ่อนดาวน์ ผู้ขายต้องคืนให้แก่ผู้ซื้อ
แม้สัญญาจะระบุว่า "...หากผู้จะซื้อผิดสัญญา ให้ผู้จะขายมีสิทธิริบเงินดาวน์..." ก็ตาม
เมื่อได้มีการฟ้องร้องคดีเงิน เงินผ่อนดาวน์นี้ ศาลมีอำนาจลดลงได้ ตามจำนวนสมควร
อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3301/2547
โจทก์ชำระเงินจำนวน 30,000 บาท ให้แก่จำเลยในวันจอง และจำนวน 120,000 บาท ในวันทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านพร้อมที่ดิน ดังนั้น เงินจำนวน 150,000 บาท จึงเป็นทรัพย์สินที่โจทก์ได้ให้แก่จำเลยแล้วในวันทำสัญญา เพื่อให้จำเลยยึดไว้เป็นการชำระหนี้บางส่วนและเป็นประกันการที่จะปฏิบัติตามสัญญาจึงถือเป็นมัดจำ ส่วนหลังจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว โจทก์ยังผ่อนชำระให้แก่จำเลยรวม 12 งวด เป็นเงิน 840,000 บาท ย่อมไม่อาจถือเป็นมัดจำ แต่เป็นเพียงการชำระราคาบ้านและที่ดินบางส่วน ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและจำเลยบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว สัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวจึงเป็นอันเลิกกัน จำเลยจึงมีสิทธิริบมัดจำจำนวน 150,000 บาท ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 378 (2) และเมื่อสัญญาจะซื้อจะขายเลิกกัน เงินที่โจทก์ชำระค่าบ้านและค่าที่ดินบางส่วนดังกล่าวต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตาม ป.พ.พ. มาตรา 391 การที่โจทก์และจำเลยตกลงกันว่า ถ้าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยบอกเลิกสัญญาแล้วให้เงินที่โจทก์ชำระมาแล้วทั้งหมดตกเป็นของจำเลยได้นั้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับที่กำหนดเป็นจำนวนเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 379 และถ้าเบี้ยปรับสูงเกินสมควร ศาลก็มีอำนาจลดลงให้เหลือเป็นจำนวนพอสมควรได้